ท้องผูกไม่ใช่เรื่องที่ปล่อยปะละเลย หากทิ้งไว้โดยไม่ใส่ใจจนเป็นเรื้อรัง ระวังโรคจะถามหาโดยไม่รู้ตัว อาการท้องผูกไม่ใช่เพียงแต่จะทำให้คุณไม่สบายตัว อึดอัดเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบสุขภาพจิตใจของคุณได้อีกด้วย 

หลายคนคงเข้าใจว่า ท้องผูก คือ การที่ร่างกายที่เราขับถ่ายลดลง เช่น 2-3  วันถึงจะขับถ่าย 1 ที แต่แท้จริงแล้ว ปัญหาท้องผูกไม่ใช่แค่เรื่องความถี่ของการขับถ่ายเท่านั้น แต่รวมไปถึงความยากในการขับถ่าย  อุจจาระแข็ง ต้องใช้แรงเบ่งประจำ  ใช้เวลาในการขับถ่ายนาน รูสึกเจ็บปวดขณะขับถ่าย หรือแม้กระทั่งรู้สึกว่าขับถ่ายไม่สุด  ลองสังเกตตัวเองดู หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาเหล่านี้ คุณอาจจะกำลังเผชิญกับปัญหาท้องผูกได้ 

อาการท้องผูก เกิดจากการที่ลำไส้มีการบีบตัวหรือเคลื่อนไหวช้า ทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดของเสียของจากระบบทางเดินอาหารได้ตามปกติ เป็นผลทำให้เกิดการตกค้างของเสียในลำไส้เป็นเวลานาน เมื่อร่างกายดูดซึมน้ำในอุจจาระกลับไป จึงเป็นสาเหตุทำให้อุจจาระมีความแข็ง แห้ง มีขนาดใหญ่ ยากต่อการขับถ่ายได้นั่นเอง 

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอาการท้องผูกมีหลายอย่าง ดังนี้

• การดื่มน้ำน้อย 
• การทานอาหารที่มีกากใย ไฟเบอร์น้อย ชอบทานเนื้อสัตว์
• การนั่งนาน ขาดการเคลื่อนไหว
• การกลั้นอุจจาระบ่อยๆ 
• การใช้ยาบางชนิด เช่น ยารักษาอาการซึมเศร้า โรคพาร์กินสัน อัลไซเมอร์ ต่างๆ 
• โรคลำไส้แปรปรวน ไทรอยด์ต่ำ  การตั้งครรภ์

จะเกิดอะไรขึ้น หากมีอาการท้องผูกเรื้อรังโดยปราศจากการดูแล

• อ่อนเพลีย ไม่สดชื่น ปวดหัว 
• สมองทำงานไม่ได้มีประสิทธิภาพ เบลอๆ 
• ทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแอ ส่งผลให้ กลั้นปัสสาวะไม่หยุดได้ 
• ริดสีดวงทวาร
• ลำไส้อุดตัน 
• มะเร็งในลำไส้

ถ้าหากคุณมีปัญหาท้องผูกอยู่ แนะนำให้รีบแก้ อย่าคิดว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะถ้าไม่รีบแก้อาจจะทำให้มันสายเกินแก้ก็เป็นได้