ปัจจุบันไขมันพอกตับไม่ใช่เรื่องไกลตัวเราอีกต่อไป ยิ่งถ้าหากคุณเป็นคนชอบกินขนมหวาน ชานมไข่มุก เข้าคาเฟ่บ่อยๆ ชอบของทอดๆ ปิ้งย่าง ไม่ค่อยออกกำลังกาย ชอบทานอาหารดึกๆ ยิ่งต้องระวังไว้เลย เพราะปัจจุบันคนที่มีภาวะไขมันพอกตับไม่ใช่เฉพาะคนที่ชอบดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น แต่คนที่ชอบของหวานๆ อาหารที่มีไขมันสูง อาหารที่ให้พลังงาน ก็มีความเสี่ยงเป็นภาวะนี้มาเช่นกัน เพราะเมื่อเราทานอาหารที่ให้พลังงานและน้ำตาลสูง เกินกว่าความจำเป็นของร่างกายต้องการ มันก็จะไปสะสมตามบริเวณตับและกล้ามเนื้อ จนกลายเป็นไขมันพอกตับได้ สิ่งที่แย่กว่านั้นคือ ส่วนใหญ่มักจะไม่มีอาการ ทำให้หลายต่อหลายคนปล่อยปะละเลย เพราะคิดว่าสุขภาพร่างกายปกติดี แต่มารู้ตัวอีกทีก็เมื่อมีเริ่มมีอาการและเป็นระยะท้ายๆ  เสี่ยงตับแข็ง มะเร็งตับ และทำให้เสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากขึ้น 

และสถิติที่น่าตกใจคือ 25-30 % ของคนไทยเผชิญหน้ากับภาวะไขมันพอกตับโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ยิ่งมีความเสี่ยง   ดังนั้นเราควรหมั่นสังเกตุตัวเอง สังเกตุพฤติกรรมการทานอาหาร สังเกตุไลฟ์สไตล์ของตัวเอง รวมทั้งหมั่นตรวจเช็คสุขภาพเป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง ก็จะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีที่จะช่วยประเมินความเสี่ยงการไขมันพอกตับ เพื่อป้องกันการรู้ตัวในวันที่สายเกินแก้

ไขมันพอกตับ ถึงแม้ว่าจะเป็นอีกหนึ่งภาวะที่หน้ากลัว แต่ก็ยังสามารถรักษาให้หายได้จากการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์

• เริ่มการออกกำลังกาย
• ลดปริมาณการทานอาหารหวานๆ และอาหารที่มีไขมันสูง
• ลดความเครียด 
• ลดการดื่มแอลกอฮอล์

นอกจากนี้การดูแลสุขภาพตับควบคู่ไปด้วย ก็ช่วยจะสามารถช่วยให้การรักษาดีขึ้นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น