น้ำหนักเกินมาตรฐาน ถือว่าหนึ่งในสัญญาณเตือนของการเกิดโรคหลายอย่าง จากคลังข้อมูลของกระทรวงสาธารณะสุข ในปี2565  พบว่าคนไทยร้อยละ 46.6 มีปัญหาน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน จึงเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงมากๆ นอกจากนี้ยังมีการตรวจพบว่า คนที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐานและโรคอ้วนมีอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรสูงกว่าคนที่มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือคนที่มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์  และจากผลสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรี (MICS)พบว่า ปัจจุบันโรคอ้วนมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในเด็กและผู้ใหญ่  สืบเนื่องมาจากวิถี การกิน ความเร่งรีบ และไลฟสไตล์ของผู้คนที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นทานผักน้อยลง ทานอาหารแปรรูป และทานอาหารรสหวาน ขาดออกกำลังกาย จึงเป็นผลทำให้เกิดปัญหาน้ำหนักเกินมาตรฐานตามมา และอาจนำไปสู่ปัญหาโรคอ้วนในอนาคตได้ 

เช็คได้อย่างไรล่ะ ว่าน้ำหนักเกินมาตรฐาน

โดยปกติแล้ว หากเราต้องการเช็คว่าน้ำหนักเราเกินมาตรฐานหรือไม่ ส่วนใหญ่จะเป็นการเช็คด้วยการหาดัชนีมวลกาย ซึ่งมีวิธีคิดง่ายดังนี้

Body Mass Index (BMI) มีสูตรการคำนวณ = น้ำหนักตัว[Kg] / (ส่วนสูง[m] ยกกำลังสอง)

**สูตรคำนวณสูตรนี้เหมาะสำหรับใช้ประเมินผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปเท่านั้น 

วิธีดูค่าดัชนีมวลกายว่า น้ำหนักเราเกินเกณฑ์หรือเปล่า สามารถดูได้ดังนี้ 

• ค่า BMI น้อยกว่า 18.5  ถือว่าผอมเกินไป เสี่ยงต่อการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
• ค่า BMI ของคนปกติทั่วไปจะ อยู่ระหว่าง 18.6-22.9  
• ค่า BMI ของคนที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน อยู่ระหว่าง 23.0-24.9 ถือว่ามีความเสี่ยงต่อโรคมากกว่าคนปกติ
• ค่า BMI ของคนอ้วน อยู่ระหว่าง 25.0-29.9  มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค 
• ค่า BMI ของคนอ้วนมาก จะเริ่มตั้งแต่ 30.0 ขึ้นไป ยิ่งอ้วนมากยิ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลายอย่างมากขึ้น 

หากคุณตรวจพบว่าคุณอยู่ในเกินน้ำหนักเกณฑ์มาตรฐาน แต่ยังไม่ถึงกับอ้วนมาก แนะนำให้รีบปรับเปลี่ยนไลฟสไตล์ ก่อนที่คุณจะกลายเป็นโรคอ้วน เพราะยิ่งอ้วนมาก ยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดโรคมากขึ้นเท่านั้น