การใช้วัฏจักรของ “เมล็ดพืช” เพื่อปรับสมดุลฮอร์โมน

ร่างกายของเราผ่านการเปลี่ยนแปลงมากมาย ตั้งแต่วัยแรกรุ่นจนถึงภาวะเจริญพันธุ์และวัยหมดประจำเดือน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะเจอกับภาวะฮอร์โมนสูงและต่ำซึ่งส่งผลกระทบต่อจิตใจร่างกาย และอารมณ์ของเรา คุณเคยรู้สึกหงุดหงิดหรือไม่สบายใจเมื่อประจำเดือนมาในแต่ละเดือนหรือไม่? ถ้าใช่ คุณไม่ได้เป็นคนเดียวที่รู้สึกหงุดหงิด 

ความเหนื่อยล้า การเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง ความรู้สึกซึมเศร้าหรือวิตกกังวล และอาการท้องอืดเป็นอาการทั่วไปที่สัมพันธ์โดยตรงกับฮอร์โมนของเรา โชคดีที่มีวิธีที่ที่สามารถช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนตามธรรมชาติและส่งเสริมสุขภาพโดยรวมนั่นคือการปรับเปลี่ยนอาหารและวิถีการดำเนินชีวิต เช่น การออกกำลังกาย การจำกัดการบริโภคน้ำตาล การลดความเครียดในแต่ละวัน การเพิ่มการรับประทานอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งให้มากขึ้น และการนอนหลับ 7-8 ชั่วโมงในแต่ละคืน

เนื่องจากอาหารเพื่อสุขภาพเป็นกุญแจสำคัญในการคืนความสมดุลทั้งในร่างกายและจิตใจ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่วิธีการใหม่ๆ ที่เป็นธรรมชาติในการคืนความสมดุลจะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งวัฏจักรของเมล็ดพืช (Seed cycling) เป็นปรากฏการณ์ล่าสุดอย่างหนึ่งที่ผู้คนนิยมนำมาใช้เพื่อให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น

วัฏจักรของเมล็ดพืชคืออะไร?

วัฏจักรของเมล็ดพืชเป็นวิธีธรรมชาติในการปรับสมดุลฮอร์โมนตามธรรมชาติโดยการรับประทานเมล็ดพืชบางชนิดในช่วงเวลาต่างๆ ของรอบประจำเดือน โดยเน้นที่สารอาหารที่พบในเมล็ดพืชสี่ชนิด ได้แก่ แฟลกซ์ ฟักทอง งา และทานตะวัน เป้าหมายคือการสร้างสมดุลระหว่างฮอร์โมน 2 ชนิดที่ช่วยควบคุมรอบประจำเดือน ได้แก่ เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน วัฏจักรของเมล็ดพืชมุ่งเน้นไปที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนในช่วงครึ่งแรกของวัฏจักรและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในช่วงครึ่งหลัง

วัฏจักรของเมล็ดพืชมีประโยชน์หลายประการ ได้แก่ :

• ช่วยควบคุมประจำเดือน
• บรรเทาอาการ PMS เช่น ปวดหัว และ ท้องอืด
• ลดการเกิดสิว
• ช่วยรักษาภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (Polycystic ovary syndrome) และ โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
• บรรเทาอาการวัยหมดประจำเดือน เช่น ร้อนวูบวาบ และ อารมณ์แปรปรวน

วัฏจักรของเมล็ดพืชทำงานอย่างไร

ในการเริ่มต้นนำวัฏจักรของเมล็ดพืชมาใช้คุณต้องติดตามรอบประจำเดือนของคุณและต้องรู้ว่ามันเริ่มต้นเมื่อไหร่ จากนั้นรอบ 28 วันของคุณจะถูกแบ่งออกเป็นสองช่วง

ในช่วงระยะที่หนึ่ง (วันที่ 1-14) ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนจะสูงที่สุด เพื่อจัดการระดับที่ฮอร์โมนที่สูงนี้และเพื่อหลีกเลี่ยงการครอบงำของฮอร์โมนเอสโตรเจนแนะนำให้บริโภคเมล็ดแฟลกซ์และเมล็ดฟักทองอย่างละหนึ่งช้อนโต๊ะในแต่ละวัน โดยเมล็ดแฟลกซ์มีกรดไขมันโอเมก้า 3 และลิกแนนสูง (ซึ่งช่วยลดฮอร์โมน เอสโตรเจน) ในขณะที่เมล็ดฟักทองมีกรดไขมันโอเมก้า 6 สูงและช่วยส่งเสริมทั้งการเจริญพันธุ์และระบบภูมิคุ้มกัน 

ในช่วงที่สอง (วันที่ 15–28) ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนของคุณมักจะต่ำที่สุด ดังนั้นแนะนำให้บริโภคเมล็ดงาหนึ่งช้อนโต๊ะและเมล็ดทานตะวันหนึ่งช้อนโต๊ะ เมล็ดงามีกรดไขมันโอเมก้า 6 และวิตามินอีสูง ในขณะที่เมล็ดทานตะวันมีโอเมก้า 3 และลิกแนนสูง

วัฏจักรของเมล็ดพืชส่งเสริมให้คุณเพิ่มเมล็ดพืชพิเศษเหล่านี้ในอาหารประจำวันของคุณซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและเป็นธรรมชาติในปรับความไม่สมดุลของฮอร์โมนของคุณ และคุณอาจมีเมล็ดพืชบางอย่างในครัวของคุณอยู่แล้ว ทั้งนี้แนะนำให้ซื้อเมล็ดพืชดิบ (ไม่คั่ว ไม่ใส่เกลือ และ ไม่ปรุงรส)

หากคุณกำลังมองหาแรงบันดาลใจเล็กๆ น้อยๆ ต่อไปนี้คือบางวิธีที่เราชื่นชอบในการรวมเมล็ดพืชเหล่านี้เข้ากับอาหารประจำวันของคุณ:

• ใส่เมล็ดแฟลกซ์บดลงในสมูทตี้
• โรยเมล็ดแฟลกซ์บนข้าวโอ๊ตหรือโยเกิร์ต
• ใส่ฟักทอง งา หรือเมล็ดทานตะวันลงในสลัด
• ผสมเมล็ดฟักทองหรือเมล็ดทานตะวันลงในกราโนล่าที่คุณชื่นชอบ
• พกเมล็ดฟักทองอบติดกระเป๋าไปเป็นของว่างระหว่างเดินทาง
• ทำแครกเกอร์เมล็ดพืชของคุณเองและโรยหน้าด้วยอะโวคาโดหรือฮัมมัสโฮมเมดเป็นอาหารว่างเพื่อสุขภาพและขนมกรุบกรอบ

เช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตหลายๆ อย่าง การปรับสมดุลของฮอร์โมนด้วยการหมุนเวียนเมล็ดพืชจะไม่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชั่วข้ามคืน โดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือนกว่าจะเริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นอย่าท้อแท้ถ้าคุณไม่รู้สึกหรือเห็นผลลัพธ์ในทันที เนื่องจากสุขภาพเป็นกระบวนการต่อเนื่อง

อาการทั่วไปของความไม่สมดุลของฮอร์โมนมีอะไรบ้าง?

บางทีคุณกำลังอ่านเกี่ยวกับวัฏจักรของเมล็ดพืชและไม่แน่ใจว่าคุณต้องการลองหรือไม่ หรือบางทีคุณอาจไม่รู้ว่าฮอร์โมนของคุณไม่สมดุลหรือไม่ อย่างไรก็ตามฮอร์โมนนั้นเชื่อมโยงกับสมอง ลำไส้ และระบบภูมิคุ้มกัน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องใส่ใจหากรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ จากการสำรวจเมื่อไม่นานนี้พบว่าเกือบครึ่งหนึ่งของผู้หญิงอายุ 30-60 ปี มีอาการของความไม่สมดุลของฮอร์โมน ทั้งนี้สัญญาณทั่วไปของความไม่สมดุลของฮอร์โมน ได้แก่ 

• นอนไม่หลับและเมื่อยล้า
• ประจำเดือนมาไม่ปกติและมีอาการ PMS  
• มีสิว
• มีภาวะสมองล้า
• ความใคร่ต่ำ
• มีภาวะมีบุตรยาก
• มีปัญหาทางเดินอาหาร เช่น ปวดท้อง หรือ ท้องอืด
• การเพิ่มขึ้นของน้ำหนัก
• ผมร่วง

ภาวะฮอร์โมนไม่สมดุลอาจมีสาเหตุมาจากความเครียดและนิสัยประจำวัน เช่น การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ การออกกำลังกายมากเกินไป ยาคุมกำเนิด วัยหมดประจำเดือน และปัญหาต่อมไทรอยด์ แม้ว่าความไม่สมดุลของฮอร์โมนจะมีอาการและความรู้สึกเหมือนอาการของหลายโรคแต่คุณรู้จักร่างกายของคุณดีที่สุด ให้หมั่นสังเกตุทั้งร่างกายและจิตใจของคุณและอย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือ จำไว้ว่าคุณเป็นผู้สนับสนุนที่ดีที่สุดของคุณ!

วัฏจักรของเมล็ดพืชและวิธีธรรมชาติอื่นๆในการปรับสมดุลฮอร์โมนกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ กำลังพยายามดูแลสุขภาพของตนเอง ท้ายที่สุดแล้ว ชีวิตที่สมดุลคือชีวิตที่มีพลังมากขึ้น