ร้อยไหมคืออะไร

ตรวจเช็คตัวเองก่อนร้อยไหม

• เคยสังเกตไหมว่า…กรอบหน้าเริ่มไม่ชัดเหมือนเดิม?
• รู้สึกว่าแก้มและเหนียงเริ่มเห็นชัดขึ้นตามวัยหรือเปล่า?
• มีริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณคางหรือกรอบหน้าที่ทำให้หน้าดูไม่กระชับ?
• กำลังมองหาทางเลือกในการดูแลผิวหน้าโดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัดใหญ่?

“ร้อยไหม” (Thread Lift) คือหัตถการเสริมความงามที่ใช้ไหมละลายชนิดพิเศษร้อยเข้าไปใต้ชั้นผิว เพื่อช่วยยกพยุงผิวหน้า ปรับรูปหน้า และลดความหย่อนคล้อย พร้อมทั้งมีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่ได้อาจทำให้ผิวดูเรียบกระชับมากขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการตอบสนองของแต่ละบุคคล

ปัจจุบันการร้อยไหมไม่ได้ใช้เฉพาะในด้านการปรับความกระชับของใบหน้าเท่านั้น แต่ยังมีการประยุกต์ใช้เพื่อเสริมบุคลิกภาพในบางบริเวณ เช่น การร้อยไหมจมูก ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกเข้ารับการผ่าตัดใหญ่

การร้อยไหมจะทำโดยสอดเส้นไหมเข้าไปโดยปกตินั้นการร้อยไหมนั้น มีหลายเทคนิค แต่เทคนิคที่นิยมคือการร้อยในชั้นไขมันเหนือ ชั้นกล้ามเนื้อ เพื่อให้เกิดการพยุงทั้งชั้นลึกและตื้นไปพร้อมกัน ทำให้ใบหน้ามีความเป็นธรรมชาติ เป็นการส่งเสริมกระบวนการสร้างคอลลาเจน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และควรได้รับการประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเข้ารับบริการ

ร้อยไหมเหมาะกับใคร

✔️ ผู้ที่เริ่มมีผิวหน้าหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง
✔️ ผู้ที่มีริ้วรอยหรือร่องเล็ก ๆ บริเวณกรอบหน้า / คาง / แก้ม
✔️ ผู้ที่รู้สึกว่าใบหน้ามีรูปทรงไม่ชัด หรือกรอบหน้าไม่เด่นชัด
✔️ ผู้ที่มีแก้มหรือเหนียงเริ่มเห็นชัดตามวัย
✔️ ผู้ที่กำลังมองหาทางเลือกอื่น ๆ นอกเหนือจากการผ่าตัดใหญ่
✔️ ผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป หรือเริ่มสังเกตเห็นสัญญาณของวัย

 วัสดุไหมที่ใช้คือสำหรับทำหัตถการคือ

วัสดุไหมที่ใช้สำหรับทำหัตถการ

ในปัจจุบันไหมที่นำมาใช้ในการทำหัตถการร้อยไหม จะต้องเป็นไหมที่ผ่านการกำหนดมาตรฐานทางการแพทย์ และได้รับการออกแบบให้สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติของร่างกาย โดยทั่วไประยะเวลาการสลายจะอยู่ประมาณ 4 – 18 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมที่เลือกใช้

โดยทั่วไป วัสดุของไหมที่ใช้ในการร้อยไหมมี 3 ชนิดหลัก ๆ ที่นิยมใช้ในทางการแพทย์ ดังนี้

ตารางเปรียบเทียบวัสดุไหมที่ใช้ในการร้อยไหม

ประเภทไหม	ชื่อเต็ม	ความยืดหยุ่น	ระยะเวลาการสลาย (โดยเฉลี่ย)	คุณสมบัติเด่น
PDO	Polydioxanone	ความยืดหยุ่นปานกลาง ไม่แข็งเกินไป ใช้งานง่าย	4 – 6 เดือน	ใช้ในหัตถการร้อยไหมเพื่อช่วยยกพยุงผิวและส่งเสริมการสร้างคอลลาเจน
PLLA	Poly-L-Lactic Acid	แข็งกว่า PDO/PCL แต่ช่วยพยุงผิวได้ดี	12 – 18 เดือน	มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจน
PCL	Polycaprolactone	ความยืดหยุ่นสูง คงตัวได้นาน ให้ความเป็นธรรมชาติมากกว่า	18 – 24 เดือน	มีความยืดหยุ่นสูงและอยู่ในร่างกายได้นานกว่าชนิดอื่น

ไหมแต่ละตัวเหมาะกับใคร

PDO
เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มมีสัญญาณผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย หรือผู้ที่อยากทดลองร้อยไหมเป็นครั้งแรก เนื่องจากตัวไหมมีความยืดหยุ่นกำลังดี ใช้งานง่าย และโดยทั่วไปจะสลายภายในระยะเวลาไม่นาน

PLLA
เหมาะกับผู้ที่ต้องการการดูแลที่คงอยู่นานกว่า PDO และผู้ที่เริ่มมีโครงสร้างผิวไม่แข็งแรง ต้องการให้ผิวแลดูมีความกระชับมากขึ้น โดย PLLA มีคุณสมบัติที่ช่วยส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนได้ดีกว่า PDO

PCL
เหมาะกับผู้ที่ต้องการการดูแลต่อเนื่อง และมองหาวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง PCL โดยเฉลี่ยสลายช้ากว่าชนิดอื่น และมีคุณสมบัติที่ช่วยให้ผิวแลดูเรียบเนียนมากขึ้น

บริเวณที่นิยมร้อยไหม

กรอบหน้า / กราม
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับความสมดุลบริเวณขากรรไกร หรือผู้ที่รู้สึกว่ากรอบหน้าไม่ชัดและแก้มล่างเริ่มเห็นชัดตามวัย

แก้ม
เหมาะกับผู้ที่มีแก้มค่อนข้างเยอะ หรือเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของผิวที่ทำให้ใบหน้าดูหย่อนลงตามอายุ

เหนียง
สามารถทำในผู้ที่ต้องการปรับสัดส่วนคางหรือเหนียงให้ดูกระชับมากขึ้น โดยมักใช้วิธีการร้อยไหมแนวเฉียงเพื่อช่วยพยุงเนื้อใต้คาง

หน้าผาก / คิ้ว
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับลุคให้หน้าผากและคิ้วดูเรียบเนียนและมีมิติมากขึ้น

---

สรุป

การร้อยไหมเป็นหนึ่งในหัตถการเสริมความงามที่ใช้ไหมละลายชนิดพิเศษสอดเข้าไปใต้ชั้นผิว เพื่อช่วยปรับโครงสร้างผิวและเสริมการพยุงในบางจุด พร้อมทั้งมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผลลัพธ์ที่ได้อาจทำให้ผิวแลดูเรียบกระชับมากขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัจจัยเฉพาะบุคคล หากสนใจโปรแกรมการร้อยไหมหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลความกระชับ สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่ Welida Health Wellness Center