ED คืออะไร? นกเขาไม่ขัน ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

ความรู้

บทความ

หมวดหมู่

อัพเดทเมื่อ มีนาคม 16, 2025

บริการที่คุณอาจสนใจ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ฝ่ายบริการลูกค้าเวลิด้า

ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ “นกเขาไม่ขัน” (Erectile Dysfunction: ED) เป็นปัญหาสุขภาพที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ชายจำนวนมากทั่วโลก อาการของ ED คือ การที่อวัยวะเพศชายไม่สามารถแข็งตัวได้อย่างเพียงพอ หรือ ไม่สามารถคงการแข็งตัวได้นานพอสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ โดยอาการนี้สามารถเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวได้ แต่หากเกิดขึ้นบ่อยครั้งหรือเป็นเรื้อรัง อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง และจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง

ED ไม่ใช่โรคใหม่ ในทางการแพทย์มีการบันทึกเกี่ยวกับอาการนี้มาตั้งแต่สมัยโบราณ หลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่าชาวอียิปต์และกรีกโบราณเคยพยายามรักษาภาวะ ED ด้วยวิธีทางสมุนไพรและเวทมนตร์ ต่อมาในศตวรรษที่ 16 และ 17 แพทย์ชาวยุโรปเริ่มพัฒนาแนวคิดทางชีววิทยาเกี่ยวกับอวัยวะเพศและระบบไหลเวียนโลหิต และในศตวรรษที่ 20 การแพทย์เริ่มตระหนักว่า ED มีความเกี่ยวข้องกับปัจจัยทางกายภาพและจิตใจ ไม่ใช่เพียงแค่ปัญหาทางอารมณ์เท่านั้น

ประวัติและการค้นพบภาวะ ED

แม้ว่า ED จะเป็นปัญหาที่มีมานานนับศตวรรษ แต่การทำความเข้าใจและวินิจฉัยภาวะนี้ในเชิงการแพทย์เพิ่งเริ่มต้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ในอดีต ผู้ชายที่ประสบภาวะ ED มักถูกมองว่าเป็นเรื่องของ “อารมณ์” หรือ “จิตใจ” เท่านั้น แต่ในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 นักวิทยาศาสตร์และแพทย์เริ่มค้นพบว่า ปัจจัยทางร่างกาย เช่น ระบบไหลเวียนโลหิต ฮอร์โมน และระบบประสาท มีบทบาทสำคัญในการเกิดภาวะนี้

หนึ่งในก้าวสำคัญของการศึกษาภาวะ ED เกิดขึ้นในปี 1970 เมื่อนักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า ไนตริกออกไซด์ (NO) มีบทบาทสำคัญต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ซึ่งนำไปสู่การพัฒนายา Sildenafil (ไวอากร้า) ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการรักษา ED ในยุคปัจจุบัน

ED เกิดจากอะไร?

การแข็งตัวของอวัยวะเพศเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน ซึ่งเกี่ยวข้องกับ ระบบไหลเวียนโลหิต ระบบประสาท และฮอร์โมน การกระตุ้นทางเพศทำให้สมองส่งสัญญาณไปยังเส้นประสาทที่ควบคุมหลอดเลือดในอวัยวะเพศ ทำให้เลือดไหลเข้าสู่เนื้อเยื่อโพรงขององคชาตและทำให้แข็งตัว หากกระบวนการนี้ถูกรบกวน ไม่ว่าจะจากปัญหาหลอดเลือด เส้นประสาท หรือปัจจัยทางจิตใจ อาจนำไปสู่ภาวะ ED ได้

สาเหตุของ ED สามารถแบ่งออกเป็น สาเหตุทางกายภาพและสาเหตุทางจิตใจ ได้แก่:

  • โรคหัวใจและหลอดเลือด – ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไม่ดีไปยังอวัยวะเพศ
  • โรคเบาหวาน – ทำให้เส้นประสาทที่ควบคุมการแข็งตัวเสียหาย
  • ภาวะฮอร์โมนผิดปกติ – ระดับเทสโทสเตอโรนต่ำอาจลดความต้องการทางเพศ
  • ความเครียดและซึมเศร้า – มีผลต่อสมองและอารมณ์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการแข็งตัว
  • การใช้ยาและสารเสพติด – ยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันโลหิต หรือยาต้านซึมเศร้า อาจมีผลข้างเคียงทำให้เกิด ED

ความอันตรายของภาวะ ED หากไม่ได้รับการรักษา

หลายคนอาจมองว่าภาวะ ED เป็นเพียงปัญหาทางเพศเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว ED อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงกว่า หากไม่ได้รับการรักษา อาจส่งผลกระทบในหลายด้าน ทั้งสุขภาพร่างกาย จิตใจ และความสัมพันธ์ระหว่างคู่รัก

  1. สัญญาณของโรคร้ายแรง – งานวิจัยพบว่า ED มักเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้ชายที่มีภาวะ ED มีแนวโน้มสูงขึ้นที่จะเป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง เนื่องจากปัญหาการไหลเวียนของเลือดที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศ อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของภาวะหลอดเลือดอุดตัน
  2. ผลกระทบต่อสุขภาพจิต – ผู้ชายที่มีภาวะ ED มักเผชิญกับความเครียด ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า การไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติอาจส่งผลต่อความมั่นใจในตนเอง และสร้างความตึงเครียดในความสัมพันธ์
  3. กระทบต่อคุณภาพชีวิตและความสัมพันธ์ – การมีภาวะ ED อาจทำให้เกิดปัญหาทางอารมณ์และจิตใจ ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจในความสัมพันธ์ระหว่างคู่รัก และหากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจนำไปสู่ปัญหาครอบครัวและการแยกทางกันได้

ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) ไม่ใช่เพียงปัญหาที่เกิดจากอายุหรือความเครียดเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนถึงสุขภาพร่างกายที่ต้องได้รับการดูแล การทำความเข้าใจเกี่ยวกับที่มาของภาวะนี้ รวมถึงความเสี่ยงหากไม่ได้รับการรักษา เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้สามารถรับมือและป้องกันปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณกำลังเผชิญกับภาวะ ED ไม่ควรเพิกเฉย Welida Health พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลสุขภาพของคุณด้วยแนวทางการรักษาที่ปลอดภัยและทันสมัย

บทความนี้ถูกตรวจโดยผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องโดย

จีณณ์ ตันติพรสิน

Jene Tantipornsin

ประวัติการศึกษา

Master’s degree : Anti aging & Regenerative medicine Bachelor’s degree : Faculty of Medicine,Lerdsin hospital

เฉพาะทางด้าน

Anti Aging & Regenerative medicine,Aesthetic dermatology