Search
Close this search box.

รู้จัก ปากกาลดน้ำหนัก ใช้คุมหิว ปลอดภัยหรือไม่?

2 นาที

16/10/2024

แชร์เนื้อหา:

แพ็คเกจที่คุณอาจสนใจ

ปกติ 24,820 บาท ลดเหลือ 15,000 บาท

ปกติ 28,500 บาท ลดเหลือ 17,500 บาท

ปกติ 16,500 บาท ลดเหลือ 9,900 บาท

ปากกาลดน้ำหนักกำลังได้รับความสนใจในวงกว้าง เนื่องจากเป็นเครื่องมือช่วยควบคุมความอยากอาหารและลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยหนึ่งในยาที่นิยมใช้คือ ลิรากลูไทด์ (Liraglutide) ซึ่งบรรจุอยู่ในอุปกรณ์ฉีดยาที่มีลักษณะคล้ายปากกา ยานี้ช่วยปรับระบบการทำงานของร่างกาย โดยเฉพาะสมอง ทำให้รู้สึกหิวน้อยลงและอิ่มนานขึ้น จึงช่วยให้สามารถควบคุมการรับประทานอาหารและลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ปากกาลดน้ำหนักปลอดภัยจริงไหม และมันทำงานอย่างไร? เราจะมาตอบคำถามยอดนิยมที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับปากกาลดน้ำหนักนี้

ปากกาลดน้ำหนักคืออะไร?

ปากกาลดน้ำหนักคืออะไร?

ปากกาลดน้ำหนักเป็นอุปกรณ์ฉีดยาที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยควบคุมความหิวและส่งเสริมการลดน้ำหนัก โดยสารที่ใช้ในปากกาลดน้ำหนักมักเป็นยาประเภท GLP-1 receptor agonists เช่น ลิรากลูไทด์ (Liraglutide) และ เซมาลกลูไทด์ (Semaglutide) ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่เลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 ที่ร่างกายสร้างขึ้น ฮอร์โมน GLP-1 มีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและการตอบสนองของระบบย่อยอาหาร ทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่มเร็วและนานขึ้น

เซมาลกลูไทด์ เช่น Ozempic เป็นหนึ่งในยาที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) สำหรับการลดน้ำหนักในผู้ที่มีดัชนีมวลกาย (BMI) ที่สูงเกินไปหรือเป็นโรคอ้วน และยังใช้ในการรักษาโรคเบาหวานประเภทที่ 2 อีกด้วย

การนำยากลุ่มนี้มาใช้ในการลดน้ำหนักเป็นการต่อยอดจากการรักษาผู้ป่วยเบาหวาน ซึ่งได้พบว่าผู้ป่วยเบาหวานที่ได้รับยานี้มีการลดน้ำหนักที่เห็นผลชัดเจน

วิธีเช็คเครื่องคำนวณหาค่าดัชนีมวลกาย (BMI)

ดัชนีมวลกาย หรือ Body Mass Index (BMI) เป็นเครื่องมือที่ใช้ประเมินภาวะน้ำหนักตัวของบุคคล โดยคำนวณจากน้ำหนักและส่วนสูง การเช็คความถูกต้องของเครื่องคำนวณ BMI เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มั่นใจว่าผลลัพธ์ที่ได้มีความแม่นยำ ต่อไปนี้เป็นวิธีการเช็คเครื่องคำนวณ BMI

ประเภทของปากกาลดน้ำหนัก

ในปัจจุบัน มีปากกาลดน้ำหนักที่ได้รับความนิยมสองชนิดหลัก ได้แก่:

  1. Saxenda (Liraglutide): ต้องฉีดทุกวัน การใช้ Saxenda เป็นวิธีที่ช่วยลดน้ำหนักในผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนโดยการควบคุมการกินผ่านการกระตุ้น GLP-1 Saxenda เป็นยาที่มีการรับรองจาก FDA และได้รับการวิจัยว่าได้ผลจริงในกลุ่มผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน ผู้ใช้ Saxenda ที่ร่วมมือกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและออกกำลังกายสามารถลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามการรักษานี้ต้องใช้เวลาและการควบคุมตลอดระยะเวลา
  2. Ozempic (Semaglutide): ฉีดสัปดาห์ละครั้ง ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกและไม่ต้องการฉีดยาบ่อยๆ ทั้งยังมีผลในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดควบคู่ไปด้วย การฉีด Ozempic ควรทำในวันเดียวกันของสัปดาห์ทุกสัปดาห์ เช่น ถ้าฉีดในวันจันทร์ ก็ควรฉีดทุกวันจันทร์ในเวลาเดียวกัน เพื่อให้ระดับยาในร่างกายคงที่และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด Ozempic เป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัท Novo Nordisk ซึ่งเป็นบริษัทด้านเภสัชกรรมที่มีชื่อเสียงจากประเทศเดนมาร์ก ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการรับรองในหลายประเทศทั่วโลกและมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในวงการแพทย์

ปากกาลดน้ำหนักทำงานอย่างไร

ปากกาลดน้ำหนักทำงานโดยการปล่อยสาร GLP-1 ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองต่อการรับประทานอาหาร ฮอร์โมนนี้จะส่งสัญญาณไปยังสมองเพื่อบอกให้ร่างกายรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยชะลอการย่อยอาหารในกระเพาะ ทำให้ผู้ใช้รู้สึกอิ่มนานขึ้น

ผลลัพธ์คือ การรับประทานอาหารน้อยลง และน้ำหนักตัวลดลงได้อย่างเป็นธรรมชาติเมื่อใช้ร่วมกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย ปากกาลดน้ำหนักแต่ละด้ามสามารถใช้งานได้นาน 1-2 เดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณการฉีดที่แพทย์แนะนำ โดยปริมาณการฉีดจะแตกต่างกันไปตามแต่ละคน หากเริ่มต้นด้วยปริมาณต่ำอาจสามารถใช้ได้ถึง 30 วัน แต่หากต้องเพิ่มปริมาณในช่วงท้ายของการใช้ ยาจะหมดเร็วขึ้น

ควรฉีดปากกาลดน้ำหนักเวลาไหน

ควรฉีดปากกาลดน้ำหนักเวลาไหน

การฉีดปากกาลดน้ำหนักควรทำเป็นประจำทุกวันในเวลาเดียวกัน โดยแพทย์มักจะแนะนำให้ฉีดก่อนอาหารมื้อแรกของวัน เนื่องจากจะช่วยควบคุมความอยากอาหารตลอดวัน อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางรายอาจเลือกฉีดในช่วงเวลาอื่นของวันได้ตามความสะดวก แต่ควรฉีดในช่วงเวลาเดียวกันของแต่ละวันเพื่อให้ผลลัพธ์ของยาคงที่

ปากกาลดน้ำหนักราคาประมาณเท่าไหร่?

ราคาของปากกาลดน้ำหนักขึ้นอยู่กับสถานที่ซื้อ โดยปกติราคาจะอยู่ในช่วง 5,000 ถึง 15,000 บาทต่อด้าม ขึ้นอยู่กับชนิดของปากกาและปริมาณการฉีดที่แพทย์แนะนำ หรือปากกาลดน้ำหนักฉีดอาทิตย์ละครั้ง การเลือกซื้อจากร้านขายยาหรือโรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อความปลอดภัย จากการทดลองพบว่า ผู้ที่ใช้ปากกาลดน้ำหนักสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 5-10% ของน้ำหนักตัวภายใน 6 เดือนหากใช้ร่วมกับการควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับการใช้อย่างต่อเนื่องและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

ปากกาลดน้ำหนักยี่ห้อไหนดี?

1. Saxenda (Liraglutide)

1. Saxenda (Liraglutide)
  • ราคา: ประมาณ 8,000 – 12,000 บาทต่อกล่อง (1 กล่องใช้ได้ประมาณ 1 เดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ฉีด)
  • ข้อดี:
    • ช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะเบาหวานประเภท 2
    • ใช้ง่าย ฉีดเพียงวันละ 1 ครั้ง
  • ข้อเสีย:
    • มีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และท้องเสีย โดยเฉพาะช่วงแรกที่เริ่มใช้ยา
    • ราคาแพงและต้องใช้ต่อเนื่องเพื่อให้เห็นผล
    • ต้องได้รับการจ่ายยาจากแพทย์เท่านั้น ไม่สามารถซื้อได้เอง

2. Wegovy (Semaglutide)

2. Wegovy (Semaglutide)
  • ราคา: ประมาณ 9,000 – 15,000 บาทต่อกล่อง (ใช้ได้ประมาณ 1 เดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ฉีด)
  • ข้อดี:
    • ผลลัพธ์ในการลดน้ำหนักชัดเจน เหมาะสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน
    • มีความสะดวกในการใช้ ฉีดเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้งเท่านั้น
    • มีการศึกษาทางคลินิกยืนยันประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก
  • ข้อเสีย:
    • ผลข้างเคียงคล้าย Saxenda เช่น คลื่นไส้ อาเจียน และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนทางตับได้ในบางกรณี
    • ราคาสูงกว่าปากกาลดน้ำหนักยี่ห้ออื่น ๆ
    • ต้องได้รับการสั่งยาจากแพทย์

3. Ozempic (Semaglutide)

3. Ozempic (Semaglutide)
  • ราคา: ประมาณ 7,000 – 10,000 บาทต่อกล่อง (1 กล่องใช้ได้ประมาณ 1 เดือน)
  • ข้อดี:
    • ช่วยควบคุมเบาหวานประเภท 2 และสามารถลดน้ำหนักได้ในเวลาเดียวกัน
    • ใช้เพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง สะดวกสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการฉีดบ่อย
    • มีการศึกษาทางคลินิกที่สนับสนุนประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักและควบคุมระดับน้ำตาล
  • ข้อเสีย:
    • ผลข้างเคียงเช่นเดียวกับปากกาอื่น ๆ ในกลุ่มนี้ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย
    • ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่มีประวัติการแพ้ยาในกลุ่ม GLP-1 receptor agonists
    • การใช้งานต้องปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัย

สรุป

ปากกาลดน้ำหนักเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยควบคุมความหิวและลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน แต่การใช้ปากกาลดน้ำหนักต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ทั้งนี้ผู้ที่สนใจควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจใช้ รวมถึงคำนึงถึงผลข้างเคียงและค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น

บทความนี้ถูกตรวจโดยผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง

สุทธวดี สุขเจริญสิน

Sutawadee Sukcharoensin

ประวัติการศึกษา

Master's degree : Anti aging & Regenerative medicine Bachelor's degree : Faculty of Medicine,Ramathibodi hospital

เฉพาะทางด้าน

Anti Aging & Regenerative medicine, Orthopaedic

บทความที่น่าสนใจ