รักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศด้วย Stem cell เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด

ความรู้

บทความ

หมวดหมู่

อัพเดทเมื่อ มีนาคม 16, 2025

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ฝ่ายบริการลูกค้าเวลิด้า

ปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศเป็นภาวะที่ส่งผลกระทบต่อผู้ชายจำนวนมาก โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้นหรือมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวานและโรคหลอดเลือด ความสามารถในการแข็งตัวของอวัยวะเพศขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งสุขภาพของระบบไหลเวียนโลหิต ระดับฮอร์โมน ระบบประสาท รวมถึงปัจจัยทางจิตใจและอารมณ์ ซึ่งล้วนมีผลต่อสมรรถภาพทางเพศโดยตรง

แม้ว่าภาวะนี้จะพบได้บ่อย แต่ปัจจุบันมีแนวทางการรักษาหลายวิธีที่สามารถช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศได้ ตั้งแต่การใช้ยา การบำบัดด้วยคลื่นเสียง ไปจนถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง การบำบัดด้วยสเต็มเซลล์ ซึ่งได้รับความสนใจมากขึ้นในวงการแพทย์ เนื่องจากเป็นการรักษาที่ช่วยฟื้นฟูจากต้นเหตุ โดยไม่ต้องพึ่งพายาหรือการผ่าตัด ทาง Welida Health เป็นหนึ่งในคลินิกที่เชี่ยวชาญด้าน Men’s Health และการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและแนวทางการรักษาที่ครอบคลุม

ED Therapy คืออะไร

ED Therapy คืออะไร

ED Therapy หรือการบำบัดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เป็นแนวทางการรักษาที่มุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ ไม่ใช่เพียงแค่บรรเทาอาการชั่วคราว วิธีการรักษามีหลากหลายแนวทาง เช่น การใช้ยา การทำกายภาพบำบัด การใช้คลื่นเสียง (Shockwave Therapy) และการรักษาด้วยสเต็มเซลล์ โดยแต่ละวิธีมีหลักการทำงานที่แตกต่างกัน เทคโนโลยีสเต็มเซลล์ถือเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่ได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากช่วยฟื้นฟูเซลล์และเนื้อเยื่อที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ฟื้นฟูระบบไหลเวียนโลหิต และลดภาวะอักเสบที่อาจเป็นต้นเหตุของอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

การรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศในระยะเริ่มต้น อาจใช้ การนวดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ความถี่ 448 กิโลเฮิรตซ์ เพื่อเพิ่มอุณหภูมิของเนื้อเยื่ออวัยวะเพศขึ้น 3 – 5 องศา ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์และซ่อมแซมหลอดเลือดที่เสียหายโดยอัตโนมัติ ซึ่งส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยให้การแข็งตัวของอวัยวะเพศมีประสิทธิภาพมากขึ้น การรักษานี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการเล็กน้อยและต้องการฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศโดยไม่ต้องใช้ยา

สำหรับผู้ที่มีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศระดับปานกลางถึงรุนแรง อาจต้องใช้ การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (Platelet-Rich Plasma หรือ PRP) ร่วมกับการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อช่วยกระตุ้นเส้นเลือดฝอยและซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย PRP ทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่และฟื้นฟูหลอดเลือดในบริเวณอวัยวะเพศ ส่งผลให้สมรรถภาพทางเพศกลับมาแข็งแรงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สาเหตุของอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

สาเหตุของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศสามารถแบ่งออกเป็นหลายปัจจัย ได้แก่:

  • ปัญหาหลอดเลือด หากการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศไม่ดีพอ อวัยวะเพศอาจไม่สามารถแข็งตัวได้เต็มที่
  • ระดับฮอร์โมนเพศชายลดลง ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีบทบาทสำคัญต่อความต้องการทางเพศและการแข็งตัว
  • ความเสียหายของเส้นประสาท พบบ่อยในผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้ที่เคยผ่าตัดต่อมลูกหมาก
  • ปัจจัยทางจิตใจและความเครียด ความเครียดเรื้อรังหรือภาวะซึมเศร้าส่งผลโดยตรงต่อระบบประสาทที่ควบคุมการแข็งตัวของอวัยวะเพศ

การรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศด้วยสเต็มเซลล์

เทคโนโลยีสเต็มเซลล์เป็นทางเลือกใหม่ในการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ โดยเซลล์ต้นกำเนิดที่ใช้ในการรักษา คือ Mesenchymal Stem Cells (MSC) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่เสียหาย กระตุ้นการสร้างเส้นเลือดใหม่ และลดการอักเสบที่อาจเป็นปัจจัยของปัญหา ED

กระบวนการรักษาเริ่มจากการเก็บสเต็มเซลล์จากไขมันหรือไขกระดูกของผู้ป่วย จากนั้นนำไปเพาะเลี้ยงเพื่อเพิ่มจำนวน และฉีดกลับเข้าสู่ร่างกายในบริเวณอวัยวะเพศ สเต็มเซลล์จะช่วยกระตุ้นการทำงานของหลอดเลือด ฟื้นฟูเส้นประสาท และช่วยให้สมรรถภาพทางเพศกลับมาดีขึ้นตามธรรมชาติ

งานวิจัยเกี่ยวกับการรักษา ED ด้วยสเต็มเซลล์

งานวิจัยเกี่ยวกับการรักษา ED ด้วยสเต็มเซลล์

ปัจจุบันมีงานวิจัยจำนวนมากที่ศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศด้วยสเต็มเซลล์ งานวิจัยบางชิ้นพบว่า สเต็มเซลล์สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างหลอดเลือดใหม่ในอวัยวะเพศชาย และช่วยซ่อมแซมความเสียหายของเส้นประสาทที่มีผลต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาเกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพในระยะยาวของการรักษาด้วยวิธีนี้

การทดลองทางคลินิกบางชิ้นชี้ให้เห็นว่า ผู้ป่วยที่ได้รับการฉีดสเต็มเซลล์สามารถฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับวิธีรักษาแบบเดิม อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ยังคงศึกษาต่อไปเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกการทำงานและผลลัพธ์ในระยะยาว

ข้อดีของการรักษาด้วยสเต็มเซลล์

หนึ่งในข้อได้เปรียบของการรักษาด้วยสเต็มเซลล์คือ การแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ แตกต่างจากการใช้ยาซึ่งเน้นบรรเทาอาการแบบชั่วคราว นอกจากนี้ การใช้เซลล์จากร่างกายของผู้ป่วยเองช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงและปฏิกิริยาตอบสนองที่ไม่พึงประสงค์ ผลลัพธ์ของการรักษาสามารถคงอยู่ได้ยาวนานกว่าวิธีการรักษาแบบเดิม

ข้อควรระวังก่อนตัดสินใจรักษาด้วยสเต็มเซลล์

แม้ว่าการรักษาด้วยสเต็มเซลล์จะมีศักยภาพสูง แต่ก็ยังมีข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษา ได้แก่:

  • ความพร้อมของร่างกาย ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจสุขภาพเบื้องต้นเพื่อประเมินว่าสามารถเข้ารับการรักษาด้วยสเต็มเซลล์ได้หรือไม่
  • ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางคนอาจเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่บางคนอาจต้องใช้เวลานานขึ้น
  • ความเชี่ยวชาญของแพทย์ การรักษาด้วยสเต็มเซลล์ควรดำเนินการโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
  • ต้นทุนการรักษา เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูง การรักษาด้วยสเต็มเซลล์อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าวิธีอื่น ๆ

เปรียบเทียบการรักษาด้วยสเต็มเซลล์กับวิธีอื่น

เปรียบเทียบการรักษาด้วยสเต็มเซลล์กับวิธีอื่น

แต่ละแนวทางการรักษามีข้อดีและข้อจำกัด การเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับลักษณะของอาการและสาเหตุของปัญหา ตัวอย่างของวิธีรักษาทั่วไป ได้แก่:

  • การใช้ยา เช่น ไวอากร้า ซึ่งช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศ แต่มีผลชั่วคราวและอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะหรือใจสั่น
  • การรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่ต่ำ (Shockwave Therapy) เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด แต่อาจต้องทำซ้ำหลายครั้ง
  • การรักษาด้วยสเต็มเซลล์ มีแนวโน้มให้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนกว่า เนื่องจากช่วยซ่อมแซมเซลล์และเนื้อเยื่อที่เสียหายได้โดยตรง

ใครบ้างที่เหมาะกับการรักษา ED ด้วยสเต็มเซลล์

กลุ่มผู้ที่เหมาะกับการรักษานี้ ได้แก่ ผู้ที่มีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศจากโรคเบาหวาน ปัญหาหลอดเลือด หรือผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อการใช้ยากระตุ้นสมรรถภาพทางเพศ นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งพาการใช้สารเคมีหรือวิธีการรักษาแบบเดิมที่อาจมีผลข้างเคียง

กระบวนการรักษา ED ด้วย Stem cell ที่ศูนย์สุขภาพ Welida

สำหรับผู้ที่สนใจการรักษาด้วยสเต็มเซลล์ สามารถเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ศูนย์สุขภาพ Welida ซึ่งมีทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ด้านการรักษาด้วยเทคโนโลยีสเต็มเซลล์ โดยกระบวนการรักษาประกอบด้วย:

  1. การวินิจฉัยและประเมินอาการ เพื่อให้แน่ใจว่าการรักษาด้วยสเต็มเซลล์เหมาะสมกับผู้ป่วย
  2. การตรวจสุขภาพเบื้องต้น เพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกายก่อนเริ่มการรักษา
  3. กระบวนการฉีดสเต็มเซลล์ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
  4. การติดตามผลลัพธ์ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ป่วยได้รับประโยชน์จากการรักษาอย่างเต็มที่

สรุป

การรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศด้วยสเต็มเซลล์เป็นทางเลือกที่ช่วยฟื้นฟูจากต้นเหตุของปัญหา ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมามีสมรรถภาพทางเพศที่แข็งแรงขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติและยั่งยืน โดยไม่มีผลข้างเคียงจากยาและให้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว หากคุณกำลังมองหาทางเลือกใหม่ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ศูนย์สุขภาพ Welida พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

บทความนี้ถูกตรวจโดยผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องโดย

จีณณ์ ตันติพรสิน

Jene Tantipornsin

ประวัติการศึกษา

Master’s degree : Anti aging & Regenerative medicine Bachelor’s degree : Faculty of Medicine,Lerdsin hospital

เฉพาะทางด้าน

Anti Aging & Regenerative medicine,Aesthetic dermatology