Search
Close this search box.

Niacinamide คืออะไร? ช่วยอะไรบ้าง?

2 นาที

09/08/2024

แชร์เนื้อหา:

แพ็คเกจที่คุณอาจสนใจ

ปกติ 24,820 บาท ลดเหลือ 15,000 บาท

ปกติ 28,500 บาท ลดเหลือ 17,500 บาท

ปกติ 16,500 บาท ลดเหลือ 9,900 บาท

Niacinamide คืออะไร?

Niacinamide คืออะไร?

Niacinamide หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Nicotinamide เป็นรูปแบบหนึ่งของวิตามิน B3 ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับร่างกายและมีบทบาทสำคัญในการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ รวมถึงผิวหนังด้วย Niacinamide เป็นส่วนผสมที่ได้รับความนิยมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเนื่องจากมีประโยชน์หลายประการที่ช่วยปรับปรุงสภาพผิวและรักษาปัญหาผิวหลายประการ

คุณสมบัติของ Niacinamide

  1. สารต้านการอักเสบ: Niacinamide มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและลดรอยแดงที่เกิดจากการอักเสบ
  2. สารต้านอนุมูลอิสระ: ช่วยป้องกันการทำลายของอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยและความเสื่อมของผิว
  3. ควบคุมการผลิตน้ำมัน: Niacinamide สามารถช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันบนผิว ลดความมันและปัญหาสิว
  4. ฟื้นฟูและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว: ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นและลดการสูญเสียความชุ่มชื้น
  5. ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ: ช่วยลดจุดด่างดำและริ้วรอย ทำให้ผิวดูสว่างและเรียบเนียนขึ้น

กลไกการทำงานของ Niacinamide

Niacinamide ทำงานโดยการเพิ่มการสังเคราะห์เซราไมด์ (ceramide) และกรดไขมัน (fatty acids) ในชั้นผิวซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและโปรตีนอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อความยืดหยุ่นและความเรียบเนียนของผิว

ส่วนผสมของ Niacinamide มีอะไรบ้าง?

ส่วนผสมของ Niacinamide มีอะไรบ้าง?

Niacinamide มักถูกนำมาใช้ร่วมกับส่วนผสมอื่น ๆ ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เช่น ไฮยาลูรอนิกแอซิด วิตามินซี และเรตินอล เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการบำรุงผิว ความเข้มข้นที่แนะนำสำหรับ Niacinamide อยู่ที่ 2-5% ซึ่งเป็นปริมาณที่มีประสิทธิภาพในการบำรุงผิวโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง การใช้ในความเข้มข้นนี้สามารถช่วยปรับปรุงสภาพผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่เสี่ยงต่อผลข้างเคียง

Niacinamide เหมาะกับใคร

Niacinamide เป็นส่วนผสมที่เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวเนื่องจากมีคุณสมบัติหลากหลายที่ช่วยปรับปรุงและฟื้นฟูสภาพผิวได้อย่างครอบคลุม อย่างไรก็ตาม คนที่มีปัญหาผิวบางประเภทอาจได้รับประโยชน์จากการใช้ Niacinamide มากเป็นพิเศษ ดังนี้:

  1. ผู้ที่มีปัญหาผิวอักเสบ:
    • Niacinamide มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ทำให้สามารถลดการระคายเคืองและรอยแดงจากสิว หรือโรคผิวหนังอื่น ๆ เช่น โรคผิวหนังอักเสบ (eczema) และโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis)
  2. ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย:
    • Niacinamide ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและโปรตีนที่สำคัญอื่น ๆ ในผิว ทำให้ผิวดูยืดหยุ่นและเรียบเนียนขึ้น ลดริ้วรอยและเส้นบาง ๆ ที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของผิว
  3. ผู้ที่มีผิวมัน:
    • Niacinamide ช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันบนผิว ลดความมันและปัญหาสิว ทำให้ผิวดูสดใสและไม่มันวาว
  4. ผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย:
    • เนื่องจาก Niacinamide มีคุณสมบัติเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นและลดความไวต่อสิ่งกระตุ้นจากภายนอก จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
  5. ผู้ที่มีปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ:
    • Niacinamide ช่วยลดจุดด่างดำและรอยสิว ทำให้สีผิวดูสม่ำเสมอและสว่างขึ้น
  6. ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิว:
    • Niacinamide ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวแข็งแรงและชุ่มชื้นขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสียหายจากมลภาวะและแสงแดด

การใช้งาน Niacinamide ในชีวิตประจำวัน

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Niacinamide เป็นส่วนประกอบในขั้นตอนการบำรุงผิวประจำวัน เช่น เซรั่ม ครีมบำรุง หรือมอยส์เจอไรเซอร์ สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและเย็น ควบคู่กับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่น ๆ ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน โดยทั่วไป ผู้ใช้อาจเริ่มเห็นผลลัพธ์เบื้องต้นภายใน 2-4 สัปดาห์ แต่เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ควรใช้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 8-12 สัปดาห์

    ข้อดีของ Niacinamide

    • ปลอดภัยสำหรับทุกสภาพผิว
    • มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยและจุดด่างดำ
    • ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว
    • ลดการอักเสบและควบคุมความมัน

    ข้อเสียของ Niacinamide

    • อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองในบางคน โดยเฉพาะเมื่อใช้ในปริมาณสูง
    • อาจมีการทำปฏิกิริยากับส่วนผสมอื่น ๆ เช่น วิตามินซีที่มีค่า pH ต่ำ
    • ต้องใช้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานจึงจะเห็นผลชัดเจน

    การใช้ Niacinamide ร่วมกับสารอื่น

    Niacinamide ควรหลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH ต่ำเช่น วิตามินซี (L-ascorbic acid) เพราะอาจลดประสิทธิภาพของทั้งสองส่วนผสมลง

    • วิตามินซี: ควรหลีกเลี่ยงการใช้พร้อมกันโดยตรง แต่สามารถใช้ต่างเวลากันได้ เช่น วิตามินซีในตอนเช้า และ Niacinamide ในตอนเย็น
    • เรตินอล: สามารถใช้ร่วมกันได้ โดย Niacinamide จะช่วยลดการระคายเคืองที่อาจเกิดจากเรตินอล
    • AHAs/BHAs: สามารถใช้ร่วมกันได้ แต่ควรระวังการระคายเคืองที่อาจเพิ่มขึ้น

    บทสรุป

    Niacinamide เป็นส่วนผสมที่มีประโยชน์หลากหลายในการบำรุงผิว เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวและสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวได้หลายประการ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Niacinamide จากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ และใช้อย่างถูกวิธีจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากสารอัศจรรย์ตัวนี้

    บทความนี้ถูกตรวจโดยผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง

    ชวัลนุช ม่วงประเสิรฐ

    Chawannut Muangprasert

    ประวัติการศึกษา

    Master's degree : Anti aging & Regenerative medicine Bachelor's degree : Faculty of Medicine,Ramathibodi hospital

    เฉพาะทางด้าน

    Anti Aging & Regenerative medicine,Aesthetic dermatology

    บทความที่น่าสนใจ