วิตามิน B12 สำคัญกว่าที่คิด ระวังเสี่ยงสมองล้า ระบบประสาทพัง

ความรู้

บทความ

หมวดหมู่

อัพเดทเมื่อ เมษายน 25, 2025

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ฝ่ายบริการลูกค้าเวลิด้า

วิตามิน B12 หรือที่รู้จักในชื่อโคบาลามิน (Cobalamin) เป็นวิตามินชนิดหนึ่งในกลุ่มวิตามินบีที่ละลายในน้ำ มีบทบาทจำเป็นต่อร่างกายในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการทำงานของระบบประสาท สมอง และการสร้างเม็ดเลือดแดง ร่างกายไม่สามารถสร้างวิตามิน B12 เองได้ และจำเป็นต้องได้รับจากอาหารที่มีแหล่งจากสัตว์ เช่น ตับ เนื้อแดง ปลา ไข่ และผลิตภัณฑ์นม หากไม่ได้รับอย่างเพียงพอ หรือมีปัญหาการดูดซึมในทางเดินอาหาร ก็อาจนำไปสู่ภาวะพร่อง B12 ได้โดยไม่รู้ตัว

สิ่งที่ทำให้วิตามิน B12 มีความสำคัญเป็นพิเศษ คือบทบาทของมันในระดับเซลล์ B12 มีส่วนช่วยในการสังเคราะห์ดีเอ็นเอ กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ที่จำเป็นต่อการผลิตพลังงานในเซลล์ และยังช่วยรักษาความสมบูรณ์ของปลอกไมอีลิน (Myelin sheath) ซึ่งเป็นโครงสร้างที่ห่อหุ้มและปกป้องเส้นประสาท หากร่างกายขาด B12 อย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้ปลอกไมอีลินเสื่อม ทำให้การส่งสัญญาณประสาทผิดปกติ ซึ่งอาจนำไปสู่อาการชาตามปลายมือปลายเท้า สมาธิสั้น อารมณ์แปรปรวน และในบางกรณี อาจพัฒนาไปสู่ภาวะสมองเสื่อมได้ในระยะยาว

วิตามิน B12 สำคัญกว่าที่คิด ระวังเสี่ยงสมองล้า ระบบประสาทพัง



งานวิจัยจาก Harvard Health Publishing ระบุว่า มากกว่า 20% ของประชากรที่มีอายุเกิน 50 ปีมีแนวโน้มว่าระดับ B12 จะอยู่ต่ำกว่าค่ามาตรฐาน แม้ไม่มีอาการปรากฏชัดเจน ซึ่งนับเป็นสัญญาณอันตราย เพราะหากปล่อยไว้โดยไม่ตรวจหรือดูแล อาจทำให้ร่างกายเสื่อมอย่างช้า ๆ โดยที่ไม่รู้ตัว

ทำไมคนสมัยนี้ขาดวิตามิน B12 ได้ง่าย?

ในปัจจุบัน การขาดวิตามิน B12 ไม่ได้เกิดเฉพาะในผู้ที่มีภาวะทุพโภชนาการเท่านั้น แต่ยังพบได้บ่อยในกลุ่มที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบ รับประทานอาหารซ้ำซาก หรือมีข้อจำกัดด้านอาหาร เช่น มังสวิรัติหรือวีแกน ซึ่งงดเว้นอาหารจากสัตว์โดยสิ้นเชิง นอกจากนี้ กลุ่มผู้สูงวัยก็มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากกรดในกระเพาะอาหารที่ลดลงตามวัย ทำให้การดูดซึมวิตามิน B12 ลดลงตามไปด้วย โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ยาลดกรดหรือยารักษาเบาหวานบางชนิด (เช่น Metformin) อย่างต่อเนื่อง ก็มีโอกาสขัดขวางการดูดซึมของ B12 จากอาหารได้อย่างมีนัยสำคัญ

สัญญาณเตือนของการขาด B12

สัญญาณเตือนของการขาด B12

อาการของการขาด B12 มักเริ่มจากความผิดปกติเล็กน้อย เช่น ความเหนื่อยล้าเรื้อรัง สมองเบลอ หรืออารมณ์ไม่มั่นคง ซึ่งหลายคนอาจเข้าใจผิดว่าเป็นผลจากความเครียดหรือพักผ่อนน้อย ทั้งที่จริงแล้วอาจเป็นเพราะระดับ B12 ในร่างกายต่ำเกินไป เมื่อขาด B12 ร่างกายจะไม่สามารถสร้างเม็ดเลือดแดงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดภาวะโลหิตจาง ทำให้รู้สึกอ่อนแรง เพลียง่าย ไม่มีสมาธิ และหากระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง อาจมีอาการชาตามปลายมือปลายเท้า หรือเสียวซ่าคล้ายไฟฟ้าช็อต บางรายอาจเริ่มมีอาการทางอารมณ์ เช่น หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า วิตกกังวล หรือแม้กระทั่งมีอาการคล้ายภาวะซึมเศร้าแบบไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งล้วนมีความเกี่ยวข้องกับการผลิตสารสื่อประสาท (Neurotransmitters) ที่ต้องใช้ B12 เป็นปัจจัยร่วมในกระบวนการ

การตรวจระดับ B12 ที่มากกว่าแค่ตัวเลข

การวินิจฉัยระดับ B12 สามารถทำได้โดยการตรวจเลือด แต่ในแนวทางสุขภาพแบบองค์รวม Welida Wellness ใช้เครื่องมือ Quantum SCIO Biofeedback เพื่อวิเคราะห์ความสมดุลของระบบประสาท ฮอร์โมน ลำไส้ และพลังงานชีวภาพในระดับเซลล์ ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ต้องเจาะเลือด และให้ข้อมูลลึกมากกว่าค่าตัวเลขธรรมดา เทคโนโลยี SCIO นี้สามารถช่วยตรวจหาภาวะเสื่อมหรือพร่องของ B12 ที่ยังไม่แสดงอาการ หรือที่ไม่สามารถระบุได้ด้วยวิธีดั้งเดิม ช่วยให้การวางแผนฟื้นฟูเป็นไปอย่างแม่นยำและตรงจุดมากยิ่งขึ้น

ดูแลสมองและระบบประสาทด้วย B12 อย่างลึกถึงเซลล์

ที่ Welida Wellness เราเชื่อว่าการดูแลภาวะพร่อง B12 ต้องไม่ใช่แค่การเสริมวิตามิน แต่ต้องมองทั้งระบบแบบองค์รวม ด้วยแผนฟื้นฟูที่ครอบคลุมทั้งร่างกายและจิตใจ ได้แก่:

  • IV Drip วิตามิน: เติม B12, B-complex และสารต้านอนุมูลอิสระเข้าสู่ร่างกายโดยตรง เสริมพลังให้เซลล์และช่วยให้สมองกลับมาสดชื่น
  • Neuro Wellness Program: ใช้เทคโนโลยีคลื่นเสียง คลื่นแสง และคลื่นสั่นสะเทือนเพื่อปรับคลื่นสมองให้สมดุล ลดความเครียดเรื้อรัง และฟื้นฟูปลอกไมอีลินของเส้นประสาท
  • SCIO Biofeedback: วิเคราะห์แบบเจาะจงและติดตามผลเพื่อปรับแผนฟื้นฟูให้เหมาะกับร่างกายของแต่ละคน

บทความนี้ถูกตรวจโดยผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องโดย

ชวัลนุช ม่วงประเสิรฐ

Chawannut Muangprasert

ประวัติการศึกษา

Master’s degree : Anti aging & Regenerative medicine Bachelor’s degree : Faculty of Medicine,Ramathibodi hospital

เฉพาะทางด้าน

Anti Aging & Regenerative medicine,Aesthetic dermatology